Landing ณ ดินแดนใหม่
นั่งเครื่องมาตั้
งครึ่งค่อนวัน นอนก้อหลับไม่สนิท วิวข้างหน้าต่างก้ออยากดูจังเลย แต่เอ๊ะ ถึงแล้วเหรอเนี่ยะ ทำไงต่อตื่นเต้นจัง นั่นแหล่ะค๊าความรู้สึกแรกของอิฉันตอนเครื่อง Landing (จอดนั่นแหล่ะ) ก้อนี่มันเป็นการขึ้นเครื่องครั้งแรกของอิฉันนี่ค่ะ แต่สุดท้ายก้อเอาตัวรอดมาได้โดยการทำความรู้จักกับพี่คนไทยใจดีที่นั่งข้างๆ เดินตามเค้าคะ โชคดีไป ลงเครื่องแล้วก้อต้องไปที่ด่านตรวจคนเข้าเมือง โอววววว ฟังดูน่ากลัวมากมาย ช่วงที่เดินไปนั้น ต่อมภาษาอังกฤษหายหมดเกลี้ยง (จากที่มีอยู่น้อยนิด) เค้าจะถามอะไรเราหนอออ ถ้าฟังไม่ออก ตอบไม่ได้ทำไง คิดไปนู้น ในระหว่างที่ยืนรอต่อแถวอยู่นั้น ก้อแอบฟังเวลาเค้าถามคนอื่นๆที่อยู่ข้างหน้าเรา บางคนก้อพูดภาษาสวีดิชคล่องปรื๋อ หรือไม่ก้อภาษาอังกฤษกัน อ้าว ฟังเพลินใกล้ถึงคิวเราแล้วซิ คนก่อนหน้าก้อคือพี่คนไทย ไหงถามสองคำเองอ่ะ แถมถามเป็นภาษาสวีดิชด้วย อ้าวนั่นผ่านแล้ว ถึงเราแล้วซิ....พอถึงคิวอิฉันนะคะ ก้อยื่นพาสปอตให้เค้า ด้วยความตื่นตระหนก ทั้งๆที่ก้อไม่ได้ทำผิดอะไรนี่หว่า เหอะๆๆ เจ้าหน้าที่ก้อเปิดไปหน้าที่มีวีซ่า มองหน้าเรา คีย์ข้อมูลอะไรไม่รู้ก๊อกๆแก๊กๆ ละหันมาหาอิฉัน ถามว่า are you working here? อิฉันตอบ yes. และเจ๊เค้าก้อถามอีกคำถามนึกว่า! Do you live with(นามสกุลโฮส) family? อิฉันตอบ yes. แล้วก้อสแตมป์ ปึ้ง! ยื่นพาสปอตให้คืน แค่เนี๊ยะ!!!!!!!!!!!!!!!!! โหย ใจหายใจคว่ำหมด เสร็จจากด่านตรวจคนเข้าเมืองก้อมาถึงการตามล่าหากระเป๋า ฟังอย่างกะหาขุมทรัพย์ ก้อแหม ไม่ใช่ก้อใกล้เคียงล่ะ ก้อคนไม่เคยบินมาก่อนในชีวิตนี่นา ดีที่ว่าพี่คนไทยเค้ายังรอ ก้อได้แต่ตามเค้าไป แล้วก้อไปยืนรอกระเป๋า รับกระเป๋าเสร็จก้อออกมาที่อาคารผู้โดยสารขาเข้า พี่คนไทยเค้าเจอแฟนเค้าที่มารับแล้ววววว กรี๊ดๆๆๆ แล้วโฮสอิฉันล่ะ มองหาเลิ่กลั่ก พักนึง โฮสก้อเดินมาหา มากอดทักทาย เฮ้อ โล่งใจไปหน่อย แล้วก้อร่ำลากับพี่คนไทย ให้เบอร์โทรกันไว้ล่ะ
นี่แหล่ะประสบการณ์ปีแรกกับการบินข้ามทวีปของอิฉัน ส่วนปีนี้เหรอ บินข้ามทวีปเช่นกันแต่ว่าต้องต่อเครื่อง โอวววววว อีกแล้ว ทำไมต้องมีเรื่องตื่นเต้นอยู่เรื่อยเลยนะ แต่ก้อไม่มีอะไรยากเย็นเลยนี่นา เจ้าหน้าที่เค้าอธิบายซะละเอียดเลยถึงวิธีการเปลียนเครื่อง ว่าไม่ต้องไปเชคอินนะคะ ลงเครื่องก้อไปรอที่เกตได้เลย จะเสียเวลารอนานหน่อยนึง ที่สนามบินอิสตันบลู ไม่เป็นไรคะ อิฉันหิ้วแลปทอปมาด้วย เปิดเล่นเนตซะเลย อิอิ
สนามบินเค้าไม่งกน่ะ ให้เนตเล่นฟรี แต่ที่อื่นต้องเสียตัง อ๋อ ลืมเล่าเรื่องตอนตรวจคนเข้าเมืองของเดนมาร์ค อิฉันก้อลุ้นว่าเค้าจะถามอะไรหนอ ท่องชื่อโฮสไว้เลยคะ พอถึงคิวเอาพาสปอตไปดู มองหน้าอิฉัน มองรูปที่พาสปอต ละก้อสแตมป์ ปึ้ง! ยื่นให้คืน........อ้าวววว ไม่คิดจะถามอะไรเลยรึพี่ (อ๋อ สงสัยตอนเชคอินสายการบินมันถามให้แล้ว แหม ถามละเอียดมากๆๆๆๆนะสายการบินนี้)
แล้วโฮสก้อมารับกลับไปที่บ้าน แนะนำตัวเองกับคนในครอบครัว พักผ่อนค๊า เหนื่อยมากมาย
เอ...แล้วพรุ่งนี้เริ่มงานเลยป่าวอ่า อันนี้ก้อแล้วแค่ความกรุณาของโฮสนะคะ
I am Palm

นี่แหล่ะประสบการณ์ปีแรกกับการบินข้ามทวีปของอิฉัน ส่วนปีนี้เหรอ บินข้ามทวีปเช่นกันแต่ว่าต้องต่อเครื่อง โอวววววว อีกแล้ว ทำไมต้องมีเรื่องตื่นเต้นอยู่เรื่อยเลยนะ แต่ก้อไม่มีอะไรยากเย็นเลยนี่นา เจ้าหน้าที่เค้าอธิบายซะละเอียดเลยถึงวิธีการเปลียนเครื่อง ว่าไม่ต้องไปเชคอินนะคะ ลงเครื่องก้อไปรอที่เกตได้เลย จะเสียเวลารอนานหน่อยนึง ที่สนามบินอิสตันบลู ไม่เป็นไรคะ อิฉันหิ้วแลปทอปมาด้วย เปิดเล่นเนตซะเลย อิอิ
สนามบินเค้าไม่งกน่ะ ให้เนตเล่นฟรี แต่ที่อื่นต้องเสียตัง อ๋อ ลืมเล่าเรื่องตอนตรวจคนเข้าเมืองของเดนมาร์ค อิฉันก้อลุ้นว่าเค้าจะถามอะไรหนอ ท่องชื่อโฮสไว้เลยคะ พอถึงคิวเอาพาสปอตไปดู มองหน้าอิฉัน มองรูปที่พาสปอต ละก้อสแตมป์ ปึ้ง! ยื่นให้คืน........อ้าวววว ไม่คิดจะถามอะไรเลยรึพี่ (อ๋อ สงสัยตอนเชคอินสายการบินมันถามให้แล้ว แหม ถามละเอียดมากๆๆๆๆนะสายการบินนี้)
แล้วโฮสก้อมารับกลับไปที่บ้าน แนะนำตัวเองกับคนในครอบครัว พักผ่อนค๊า เหนื่อยมากมาย

เอ...แล้วพรุ่งนี้เริ่มงานเลยป่าวอ่า อันนี้ก้อแล้วแค่ความกรุณาของโฮสนะคะ
I am Palm
ว๊าวๆๆๆๆ ถึงดินแดนในฝันของเค้าแล้วสิ อิอิ
ตอบลบดีจังพี่ปาล์มที่ตม.เค้าไม่เรื่องมากเนาะให้ผ่านง่ายๆ
แต่ถ้าเค้าไปเค้าจะได้เข้าประเทศมะเนี่ย ยิ่งไม่มีความสวยไว้ข่มอยู่ 555
รีบๆมาต่อเน้อพี่ปาล์ม กำลังหนุก อิอิ