ณ ที่แห่งนี้.......

ที่แห่งนี้....คือดินแดนแห่งใหม่เต็มไปด้วยการเรียนรู้อย่างไม่รู้จบ
ที่แห่งนี้....ผู้คนเค้าพูดภาษาที่ไม่ค่อยจะคุ้นหูนัก
ที่แห่งนี้...อากาศมั่นช่างหนาวจับใจ
ที่แห่งนี้...อาหารมันช่างจืดชืดไปหมด
ที่แห่งนี้...เสื้อผ้าอาภรณ์มันช่างแปลกตาซะจริง
ที่แห่งนี้...ไม่มีลูกชิ้นทอดขายข้างทางหรือซาลาเปาขนมจีบในเซเว่นอีเลเว่น
ที่แห่งนี้...คือที่แห่งใหม่ของอิฉันและอีกหลายๆคนที่อยากจะเข้ามาสัมผัส...... แต่ไม่รับประกันนะว่าจะสุขสมใจทุกคน

ทุกย่างก้าวคือการเรียนรู้ แหมขึ้นต้นซะหรูเลยรอบนี้ อิอิ ในช่วงที่อิฉันได้ผ่านการเป็นออแพร์จากสวีเดนและกำลังเป็นที่เดนมาร์คอยู่นี้ มีหลายสิ่งหลายอย่างเข้ามาให้ได้เรียนรู้ สุข เศร้า ผิดหวัง โกรธ ดีใจ และอื่นๆอีกมากมาย มันทำให้อิฉันโตขึ้น ใจเย็นลง รู้จักปรับตัวและคุ้นเคยกับคำว่า "ช่างมันเถอะ" ถึงแม้ว่าการทำงานแบบออแพร์ จะไม่เหมือนการทำงานแบบออฟิต แต่รูปแบบการบริหาร มันก้อไม่ต่างอะไรกันหรอกคะ โฮส หรือเจ้านาย เค้าก้อต้องการสิ่งที่ดีที่สุด ให้มันคุ้มค่ากับที่เค้าเสียเงินจ้างเรามา บางคนเจอครอบครัวที่ดี ที่เค้ารับออแพร์เข้าเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวจริงๆ แต่บางคนก้อพูดแค่ลมปาก แต่ก้ออยากให้ทุกคนคิดอย่างการทำงานทั่วไป อิฉันว่ามันเป็นไปไม่ได้ร้อยเปอร์เซนต์หรอกที่เค้าจะรับเราเข้ามาและเชื่อใจเราสนิทใจอย่างญาติพี่น้องเค้า เพราะฉนั้นตรงนี้ก้อทำใจหน่อย

อดทนเป็นคาถาที่ดีสำหรับการดำเนินชีวิตที่นี่ อดทนทำให้จบสัญญา ให้สมกับที่อยากมานักหนา แต่ก้ออีกล่ะ อย่าไปอดทนกับอะไรที่มันไม่สมควร อย่างเช่นอดทนให้เค้าจิกหัวใช้ เอารัดเอาเปรียบ อย่างนั้นอย่าไปอดทนมันคะ

เมื่อวานมีน้องคนนึงถามว่า ระหว่างสวีเดน กับ เดนมาร์ค เลือกประเทศไหนดี อิฉันก้อได้แต่ตอบไปว่า ชอบที่ไหนมากกว่า และโฮสที่ไหนดีกว่าเท่านั้น แต่ถ้าใครตัดสินใจไม่ได้ว่าอันไหนดีกว่า อิฉันก้อจะเล่าให้ฟังคะ

สวีเดน VS เดนมาร์ค

สภาพภูมิประเทศและภูมิอากาศ : คล้ายๆกัน เพราะอยู่แถบเดียวกัน ช่วง พฤศจิกายนถึง กุมภาพันธ์ คือหน้าหนาว หนาวอย่างคาดไม่ถึงเลยที่เดียวเชียว แต่ถ้าเป็นแถบทางเหนือของสวีเดนล่ะก้อ ต่ำสุดเห็นว่า -30องศา อะไรเทือกนี้ หิมะก้อตกบ้าง แต่บางปีตกน้อย ถัดจากนั้นก้อมีนาคม ถึง พฤษภาคม ก้อคือ ฤดูใบไม้ผลิ อากาศอยู่ที่สิบกว่าๆ แต่ต้นมีนายังมีฝนตกบ้าง แต่บางวันมันก้อร้อนแฮะ ที่กำลังเขียนอยู่นี้ก้อเดือนเมษาคะ อาทิตย์ก่อนร้อนทั้งอาทิตย์ แต่มาอาทิตย์นี้ฝนตก อากาศก้อเย็นๆนิดหน่อย แต่พอเข้าเดือนมิถุนายมถึงสิงหาคมละคุณเอ๋ยยยยยยยย ร้อนสุดๆ ตอนนี้ใส่ขาสั้นเดินกันได้เลย อุณหภูมิก้ออยู่ที่ ยี่สิบถึงสามสิบกว่าๆ ปีที่อิฉันอยู่สวีเดนจำได้ว่า สูงสุดคือ สามสิบหกองศาช่วงกลางวัน แล้วแดดที่นี้นะคะ ร้อนแผดเผายิ่งกว่าเมืองไทยอีก เพราะเมืองไทยมันร้อนชื้นอ่ะ เคยนั่งอยู่ที่ระเบียงแล้วแขนข้างนึงโดนแดด นั่งแค่ครึ่งชั่วโมงเท่านั้น สีแขนสองข้างไม่เท่ากันเลย เหอะๆๆๆ แต่พอเดือนเดือนกันยา ตุลา ก้อจะเป็นฤดูใบไม้ร่วง อากาศก้อจะลดลงพอๆกับช่วงใบไม้ผลิ แต่จะค่ำเร็ว แสงแดดน้อยลง แล้วก้อวนไปที่หน้าหนาวอีกครั้ง

ภาษา อาหาร ผู้คน : ภาษาทั้งสองประเทศคล้ายๆกันบางคำ แต่บางคำก้อเรียกต่างกันไปเลย เอาเป็นว่าเค้าคุยกันรู้เรื่อง แต่คนเดนมาร์คต้องพูดให้ช้าลงหน่อย คนสวีเดนถึงจะเข้าใจ อาหาร ถ้าเป็นอาหารพื้นเมือง เอ่อ ภาษาไทยมันเรียกอะไรล่ะ ภาษาอังกฤษเรียก tradition food น่ะ เช่นอาหารที่เค้าจะทำกินกันช่วงเวลาพิเศษอย่างคริสมาต สองประเทศก้อจะกินต่างกัน ที่สวีเดนจะกินแฮม แต่เดนมาร์คจะกินเป็ด หรือหมูกรอบ แต่อิฉันว่ารสชาดมันก้อเหมือนๆกันแหล่ะค๊า สรุป เหมือนกันละกัน ส่วนผู้คนเค้าก้ออัธยาศัยดี เจอหน้ากันก้อยิ้มทักทายกันบ้าง หรือหากเราอยากได้ความช่วยเหลือเค้าก้อเต็มใจที่จะช่วง อย่างเช่นถามทาง (ถึงแม้ว่าคนอธิบายทางจะพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ก้อเหอะ)

สวัสดิการและความปลอดภัย : ออแพร์สวีเดนค่อนข้างเสียเปรียบเรื่องสวัสดิการถ้าเทียบกับเดนมาร์ค รู้สึกว่าออแพร์ที่สวีเดนนั้นจะต้องซื้อประกันสุขภาพเอง (เอ.....แต่ตอนอิฉันไปโฮสซื้อให้แฮะ แต่ก้อไม่เคยป่วยเลยไม่ต้องใช้มัน) แต่ที่เดนมาร์ค พอมาถึงปุ๊บ โฮสจะต้องพาไปทำบัตรเหลืองที่คอมมูน ก้อคล้ายๆทำบัตรประชาชนบ้านเราแหล่ะคะ เราก้อจะมีหมายเลขประจำตัว ซึ่งหมายเลขประจำตัวนี้สามารถใช้ในการเปิดบัญชีธนาคารได้ ซื้อโทรศัพท์แบบเหมาจ่ายรายเดือน หาหมอฟรี ใช้ห้องสมุดฟรี ยืมหนังสือฟรี ซึ่งอิฉันว่าออแพร์ได้สิทธิ์เท่าๆกับคนเดนมาร์คเลย แล้วสำหรับผู้หญิงเค้าก้อจะมีการตรวจหามะเร็งฟรีด้วยล่ะ (ซึ่งราคาที่ไทยนี่แพงโข แค่ตรวจอย่างเดียวนะไม่รวมรักษา) แต่ถ้าจะต้องซื้อยาอะไรนั้น เราต้องจ่ายเองคะ แต่เดินดุ่มๆไปซื้อเลยเค้าไม่ขายให้นะคะ จะต้องไปหาหมอเพื่อเอาใบสั่งยาก่อนถึงจะได้เสียตังซื้อกัน ส่วนห้องสมุดนั้นอิฉันเห็นแล้วกรี๊ดมากมาย ประทับใจคะ ไม่ใช่เพียงแต่หนังสือมีเยอะมากมายเท่านั้น ยังมีดีวีดีหนัง คอนเสิรต ซีดีเพลง ซีดีการเรียนภาษา และอื่นๆอีกมากมาย อ๋อ ที่เมืองอิฉันมีหนังสือไทยด้วย มีนิตยสารชีวจิตประมาณสิบกว่าเล่ม ตั้งแต่ปี 46 นู้นนน แต่ภาษาเวียดนามดันเยอะกว่า เฮ้อ อิจฉา และก้อมีภาษาอื่นๆอีก รวมทั้งภาษาอังกฤษด้วย อิฉันว่างก้อจะไปยืมหนังสือคู่มือท่องเที่ยวมาศึกษา หุหุ สรุแล้วออแพร์เดนมาร์คได้เปรียบเรื่องสวัสดิการคะ ส่วนสวีเดนนั้นไม่ได้อะไรเลยล่ะ ในส่วนของความปลอดภัยนั้น ทั้งสองประเทศความปลอดภัยค่อนข้างสูงอันดับต้นๆของโลก แต่ก้ออย่างที่ว่าล่ะคะ มันไม่มีใครดีทุกคนหรอก มิจฉาชีพ คนชั่วก้อมีแฝงอยู่ ปล้นจี้ ล้วงกระเป๋าก้อมีให้เห็นอยู่บ่อยๆ ยังไงก้อระวังตัวกันให้ดีนะคะ

เอาล่ะทั้งหมดนี้ก้อน่าจะเป็นตัวช่วยในการตัดสินใจของใครๆหลายคนได้ ยังไงก้อตกลงกันให้ดีที่สุดก่อนจะมานะคะ ประสบการณ์จากเพื่อนคนอื่นๆที่เขียนให้อ่านก้อไปหาอ่านกันในบอร์ด www.thaiaupairclub.com ได้คะ บอร์ดนี้เค้าดีจริงๆ

นี่ก้อคงเป็นตอนสุดท้ายที่จะถ่ายทอดประสบการณ์ให้ผู้อ่าน ได้อ่านกันน่าจะครบถ้วนแล้ว อะไรขาดตกบกพร่อง หรืออยากเพิ่มเติมอะไรก้อแชร์กันได้คะ ยินดีรับฟังเสมอ

ขอให้ทุกคนอดทนกับสิ่งที่ตัวเองเลือก

I am Palm

ตอนหน้าจะรวบรวมเวบไซต์ต่างๆที่สำคัญและไม่สำคัญมาฝากกันคะ

ความคิดเห็น

  1. ไม่ระบุชื่อ26 เมษายน 2552 เวลา 05:00

    ดีค่าพี่ปาล์ม ไม่ได้มาเม้นพี่ปาล์มตั้งนานเลย เป็นไงบ้างคะพี่

    อยู่ที่เกาหลีอังก็เรียนมันทุกวันเลย เง้อออ

    แต่ก็ไกล้จะกลับไทยแล้ว อิอิ ดีใจๆ

    คิดถึงนะพี่ปาล์ม อิอิ

    ตอบลบ

แสดงความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม